Call of Duty ภาคที่แล้ว อย่าง Black Ops ได้มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่โดยการตัดโหมด Single Player ออกไป และเน้นไปที่โหมดการเล่นแบบ Multi Player อย่างเต็มที่ และการกลับมาในภาค Black Ops Cold War นี้นอกจากทีมงานจะนำโหมด Single Player แบบแคมเปญกลับมาแล้ว ตัวเกมก็ยังได้ยกเอาเหตุการณ์ของหนึ่งในสงครามที่อาจจะไม่ค่อยได้พบเห็นผ่านเกมอื่น ๆ สักเท่าไหร่ คือ สงครามเย็น ซึ่งมันก็จะอัดแน่นไปด้วยโหมด Multi Player อื่น ๆ รวมไปถึงโหมดที่หลาย ๆ คนชอบ นั่นก็คือ โหมดซอมบี้เช่นกัน ต้องมาดูว่า การกลับมาของโหมด Single Player หรือโหมดแคมเปญที่มีความเข้มข้นจะทำให้เกมนี้ไปในทิศทางไหน และจะมีอะไรใหม่ ๆ เพิ่มเข้ามาบ้าง
โดยเรื่องราวในโหมดเนื้อเรื่องหลักก็จะเป็นการหยิบยกเอาช่วงเวลาของความอึดอัดจากสงครามเย็นระหว่างสหรัฐอเมริกาและสหภาพโซเวียตในปี 1981 ที่ประธานาธิบดีโรนัลด์ เรแกน ได้ออกคำสั่งให้จัดตั้งกองกำลังเฉพาะกิจเพื่อไปกำจัดภัยคุกคามที่ได้แทรกซึมอยู่ในสหรัฐฯ ซึ่งจะรู้จักกันในนามเพอร์ซิอุส โดยตัวเกมก็สามารถนำเสนอบรรยากาศในยุค 80 ได้ยอดเยี่ยม ทั้งสิ่งต่าง ๆ ที่อยู่ภายในฉาก รวมทั้งบรรยากาศและการแต่งตัวของตัวละคร ไปจนถึงบุคลิกและพฤติกรรมของบุคคลในยุคนั้น จุดเด่นของภาค Cold War นี้ก็คือ ตัวเกมที่จะให้ผู้เล่นกรอกข้อมูลเชิงจิตวิทยาเพื่อให้เกมมีผลต่อเกมเพลย์และเพิร์ก ที่เราจะได้รับอีกด้วย และสิ่งที่แฟน ๆ ในภาคแรกน่าจะชอบ คือ ในภาคนี้ผู้เล่นจะได้เจอกับตัวละครที่คุ้นเคย ไม่ว่าจะเป็น อเล็กซ์ มาซัน แฟรงค์ วู๊ด หรือ Jason Hudson และนอกจากนั้นก็ยังมีตัวละครใหม่ ๆ และตัวละครเด่น ๆ ในภาคนี้ อย่าง Adler CIA ในตำนาน ที่จะนำทีมของเราในการไปปฏิบัติภาระกิจ และความสัมพันธ์ของตัวละครก็จะถูกถ่ายทอดระหว่างเหตุการณ์ในเซฟเฮาส์ที่จะเหมือนเป็นการพักระหว่าง Mission และนอกจากนั้นผู้เล่นก็ยังสามารถตรวจเช็คหลักฐานต่าง ๆ เพื่อเรียนรู้เรื่องราวของเกมให้มากขึ้น และมีการพูดคุยกับสมาชิกในทีมก็ยังมีตัวเลือกให้ผู้เล่นเลือกตอบคำถามอีกด้วย แม้ในส่วนนี้จะไม่ได้มีผลกระทบต่อเรื่องราวมากนักแต่มันก็ได้ช่วยเพิ่มสีสันให้กับตัวเกม โดยตลอดกาลเล่นโหมดเนื้อเรื่องหลักอย่างโหมดแคมเปญในภาคนี้ ก็สามารถที่จะช่วยเพิ่มความน่าสนใจในการนำเสนอและเติมเต็มช่องว่างของเนื้อเรื่องจากซีรี่ย์ได้อย่างดี และยังมีการเพิ่ม mechanic ใหม่ ๆ เข้ามาอีกด้วย อย่างการนำสิ่งของที่หามาได้มาเพิ่มลงในกองหลักฐานเพื่อเซ็ตอัพภารกิจเสริม ซึ่งก็จะทำให้ผู้เล่นอยากเล่นภารกิจซ้ำ ๆ เพื่อจะไปตามหาสิ่งต่าง ๆ ในเกมให้ครบ และในภาคนี้ เกมก็ได้สร้าง surprise ด้วยการใส่ฉากจบเข้ามาอย่างหลากหลายแบบ ซึ่งมันจะไปขึ้นอยู่กับทางเลือกของผู้เล่น นอกจากจะช่วยให้เนื้อเรื่องน่าสนใจขึ้นแล้วผู้เล่นก็ยังสามารถซึมซับเรื่องราวและความเป็นไปได้ของเนื้อเรื่องได้หลากหลายแบบหลากหลายอารมณ์อีกด้วย
ในส่วนของการเล่นโหมด Call of Duty: Black Ops Cold War มัลติเพลเยอร์ ก็แทบจะเป็นเหมือนแก่นหลักของเกมนี้ และในภาคนี้ก็ยังอัดแน่นไปด้วยโหมดต่าง ๆ ทั้งโหมดเก่าและหมุดใหม่มากมายไม่ว่าจะเป็นทีม Death Match, Domination, Kill confirm, Dead Ops Arcade Double Agent และ Combined arms ที่กลับมาอีกครั้งและโหมดใหม่ที่จะแบ่งทีมออกเป็นฟังละ 6 คนเพื่อปกป้องวีไอพีฝั่งตัวเองและต้องจัดการกับอีกฝ่ายและอีกโหมดที่ฮิตมาก ๆ อยากซอมบี้ก็ยังคงใส่เข้ามาเช่นเคย ที่ได้มีการเพิ่มเติมอะไรใหม่ ๆ เข้ามาอยู่บ้างแต่ก็ไม่ได้ถึงกับมากมายนัก
ในส่วนของระบบเกมเพลย์ในโหมดแคมเปญที่มีการต่อสู้ ซึ่งแฟน ๆ ก็จะคาดหวังในเกมนี้ ซึ่งก็แน่นอนว่าเกมยังคงทำออกมาได้อย่างสนุกตามมาตรฐานของซีรี่ย์ ทั้งการยิงที่มีความรุนแรงสะใจและ AI ศัตรูที่มีความฉลาดสร้างความท้าทาย แต่ภาค Cold War นี้จะมีอยู่หลายภารกิจที่ผู้เล่นจะต้องเป็นสปายและลอบเร้น เพื่อทำสิ่งต่าง ๆ ส่วนเกมเพลย์ในภาคนี้ก็จะมีองค์ประกอบในการลอบเร้น มีทริคต่าง ๆ อย่างเช่น การสะเดาะกลอนประตูหรือบางครั้งผู้เล่นยังต้องทำการวิเคราะห์หลักฐานการถอดรหัสและแก้ปริศนาอีกด้วย จึงจะสามารถเล่นภารกิจหลักต่อไปได้ ซึ่งการใส่เอลิเม้นแบบเกมแนว Adventure เข้ามาก็ได้ช่วยเพิ่มความแปลกใหม่ให้กับเกมได้เป็นอย่างดี ซึ่งสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ก็ทำให้เห็นถึงอนาคตของเกมนี้ด้วย ส่วนภารกิจต่าง ๆ ภายในเกมก็ไม่ได้มีแค่การยิงกันและต่อสู้กันเท่านั้น แต่ภารกิจของผู้เล่นก็จะมีทั้งการลอบเร้น ปลอมตัว ลอบสังหาร หรือการซ่อนตัว ซึ่งเป็นการเพิ่มอิสระทางความคิดมากกว่าเกมแนวมุมมองบุคคลที่หนึ่งทั่ว ๆ ไป ในส่วนของโหมดมัลติเพลเยอร์ แม้ว่าจะมีโหมดที่หลากหลายแต่ mechanic ในการเล่นในแต่ละโหมดก็ยังมีความใกล้เคียงกัน คือ การเดินหน้าเพื่อยิงฝ่ายตรงข้ามและการปรับแต่งปืนจะมีโหมด Combined arms ที่จะต้องยิงพาหนะ และสิ่งที่เพิ่มเติมเข้ามานอกจากภาคก่อน ๆ ก็จะมีพวกอาวุธและยานพาหนะใหม่ ๆ เพิ่มเข้ามา ซึ่งมีความหลากหลายและมีความลึกมากขึ้น โดยรวมแล้วก็ถือว่าทำออกมาได้สนุกและตามมาตรฐานของซีรี่ย์นี้ แต่หากว่าต้องเทียบกับโหมดแคมเปญ ก็ถือว่ายังมีความเปลี่ยนแปลงที่น้อยกว่า และโหมดซอมบี้ก็เหมือนเป็นอีกโหมดหลักที่อยู่คู่กับเกมนี้มาตลอด ซึ่งในภาคนี้ก็ได้มีการปรับเปลี่ยนอะไรใหม่ ๆ เข้ามาบ้าง อย่างเช่น การเลือกโหลดเอาท์ได้อิสระมากขึ้นก่อนที่จะต้องไปสู้กับซอมบี้ ซึ่งก็อาจจะดีกว่าการหาอาวุธตามฉาก ทำให้โหมดนี้มีการซื้ออาวุธที่ดี ๆ ซื้อบัฟ ซึ่งก็ค่อนข้างจำเป็นและยังสามารถเรียกเฮลิคอปเตอร์มาช่วยในสถานการณ์ที่ฉุกเฉินได้อีกด้วย ถ้าใครเคยผ่านโหมดซอมบี้จากเฟรนไชส์นี้ก็น่าจะประทับใจได้แน่นอน แม้จะเพิ่มเติมอะไรใหม่ ๆ เข้ามาบ้างแต่ก็ไม่ได้มีอะไรที่ดูแปลกไปจากเดิมมากนัก
ในส่วนของระบบกราฟฟิกและซาวด์เอฟเฟคที่ไม่ใช่แค่ทำได้ตามมาตรฐาน แต่ยังมีการพัฒนาให้เข้ากับยุคสมัยและเทคโนโลยีต่าง ๆ ในวงการเกมอีกด้วย ซึ่งภาค Cold War นี้ ก็มีทั้งงานศิลป์ที่นำเสนอโลกในยุคสงครามเย็นได้อย่างยอดเยี่ยม ไม่ใช่แค่ฉากในสงครามแต่บรรยากาศและองค์ประกอบภายในฉากทุก ๆ เหตุการณ์ก็จะให้อารมณ์ในยุค 80 ได้อย่างดีมากส่วนกราฟฟิกก็มีความสวยงามมีความละเอียด ไม่ทำให้ผิดหวังโดยเฉพาะในโหมดแคมเปญ ส่วนซาวด์เอฟเฟคก็เช่นกัน ที่ทำออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมและสะใจ ส่วนวอยซ์แอ็คติ้งก็ทำออกมาได้ดี Soundtrack ที่ช่วยเร่งเร้าอารมณ์ในแต่ละเหตุการณ์ก็ทำออกมาได้ยิ่งดี
Call of Duty: Black Ops Cold War นี้ ที่ได้นำซีรี่ย์ Black Ops กลับมาทำอีกครั้งกับภาค Cold War ก็ถือว่าทำได้ตามมาตรฐานเดิมได้อย่างดีพร้อมกับการใส่สิ่งใหม่ ๆ เพิ่มเข้ามา แต่สิ่งที่ทำได้ดีที่สุดคือการนำแคมเปญโหมดกลับมาและเนื้อเรื่องที่มีความเข้มข้นกับเกมเพลย์อื่น ๆ นอกจากการยิงต่อสู้ก็ถือเป็นการสร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้กับเกมแนวนี้ได้อย่างดีมาก ๆ และเข้ากันกับฉากหลัง และเรื่องราวรวมไปถึงการที่มีฉากจบหลายแบบให้ผู้เล่นได้ย้อนกลับมาเล่นได้อีก และโหมดมัลติเพลเยอร์ที่มีอยู่มากมาย ทั้งใหม่และเก่าหรือซอมบี้โหมดที่ถือว่าเป็นอีกโหมดยอดฮิตในซีรี่ย์ แม้อาจจะไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรมากนัก แต่ก็ถือว่าทำออกมาได้ดี หากใครที่ชอบมัลติเพลเยอร์ก็ถือว่าเล่นได้ตามปกติ แต่ถ้าหากใครที่รอคอยโหมดแคมเปญกับเนื้อเรื่องที่เข้มข้น ในภาคนี้ก็ถือว่าประทับใจมาก
Call of Duty ภาคที่แล้ว อย่าง Black Ops ได้มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่โดยการตัดโหมด Single Player ออกไป และเน้นไปที่โหมดการเล่นแบบ Multi Player อย่างเต็มที่ และการกลับมาในภาค Black Ops Cold War นี้นอกจากทีมงานจะนำโหมด Single Player แบบแคมเปญกลับมาแล้ว ตัวเกมก็ยังได้ยกเอาเหตุการณ์ของหนึ่งในสงครามที่อาจจะไม่ค่อยได้พบเห็นผ่านเกมอื่น ๆ สักเท่าไหร่ คือ สงครามเย็น ซึ่งมันก็จะอัดแน่นไปด้วยโหมด Multi Player อื่น ๆ รวมไปถึงโหมดที่หลาย ๆ คนชอบ นั่นก็คือ โหมดซอมบี้เช่นกัน ต้องมาดูว่า การกลับมาของโหมด Single Player หรือโหมดแคมเปญที่มีความเข้มข้นจะทำให้เกมนี้ไปในทิศทางไหน และจะมีอะไรใหม่ ๆ เพิ่มเข้ามาบ้าง รีวิวเกม Call of Duty : Black Ops Cold […]